วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

บวบ ผักเนื้อเย็น เนื้อเขียวใส มากด้วยใยอาหาร




บวบ ผักเนื้อเย็น เนื้อเขียวใส มากด้วยใยอาหาร

          บวบ ที่มีรสอร่อยและคนนิยมรับประทานกันมากที่สุดคือ บวบเหลี่ยม ซึ่งจะผลิดอกออกผลสะพรั่งให้พวกเรากินกันได้ทุกฤดู ต่างไปจากบวบหอมที่หารับประทานได้เฉพาะช่วงหน้าฝน ในขณะที่บวบงูก็จะออกผลดกในช่วงปลายฝนต่อต้นฤดูหนาว บวบเหลี่ยมจึงเป็นตัวแทนของเหล่าบวบที่มีให้คนไทยบริโภคได้ครบทั้ง 3 ฤดูเลยทีเดียว

          บวบเหลี่ยมเป็นชื่อที่คนภาคกลางเรียกกัน แต่ทางภาคเหนือจะมีสำเนียงใช้เรียกที่แตกต่างกันอย่างมาก เช่น หมักนอย มะนอยเหลี่ยม บางแห่งก็เรียกกันว่า มะนอยเลียม คนบางท้องถิ่นเรียกมะนอยเฉยๆ มีบ้างที่เรียกแปลกออกไปกว่านั้นอีก เช่น มะนอยข้อง มะนอยงู





       
 

          คุณค่าและคุณประโยชน์

          ผล ของบวบที่ยังอ่อนเอ๊าะ นั้นอร่อยมาก มีรสหวานนิดๆ ตามธรรมชาติ จะนำไปทำอาหารอะไรก็อร่อยเยี่ยมยอดทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็นผัด ต้ม หรือ แกง อย่างเช่น ต้มจิ้มกับน้ำพริกรสจัด หรือจะผัดกับ ไข่ หมู กุ้ง ส่วนแกงที่นิยมทานกันคือ แกงส้ม แกงเลียง และแกงกับปลาแห้ง

          ต้องยอมรับกันตรงๆ อย่างหนึ่งว่า บวบไม่ได้เป็นพืชผักที่มีวิตามินสำคัญอะไรมากมาย แต่เขาก็ชดเชยความด้อยตรงนี้ลงได้ด้วยความเด่นในเรื่องที่เป็นผักที่มีน้ำ เยอะ คนโบราณเขาถือว่าบวบเป็นผักธาตุเย็น ช่วยคลายความร้อนได้ดี และมีคุณค่าทางพืชสมุนไพรสูง และที่มองข้ามไม่ได้คือ นอกจากจะมีเส้นใยสูงเป็นตัวชูโรงแล้ว บวบเหลี่ยมยังให้แร่ธาตุตัวสำคัญอย่างฟอสฟอรัสในปริมาณที่ค่อนข้างสูงหรือ ธาตุเหล็กที่ช่วยสร้างเม็ดเลือด รวมทั้งแร่ธาตุอีกหลายอย่างที่ช่วยเสริมสร้างฟันและกระดูกของเราได้เป็น อย่างดีอีกด้วย

          เมื่อหันกลับมามองประโยชน์ทางยาของบวบเหลี่ยมแล้ว จะพบว่ามีมากมายไล่ตั้งแต่ผลอ่อนที่เรานำมาทำอาหารได้สารพัดเมนู นอกจากความหวานอร่อยที่ได้แน่ ๆ แล้วยังเป็นยาแก้ร้อนใน ช่วยระบายท้อง และช่วยขับปัสสาวะ ขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ ลดไข้ และบำรุ่งร่างกายได้เยี่ยมอีกด้วย
              

 ในขณะที่ใบนอกจากจะใช้ต้มกับน้ำดื่ม เพื่อช่วยขับปัสสาวะได้ดีเหมือนกับผลแล้ว ยังช่วยแก้อาการปัสสาวะเป็นเลือด ขับเสมหะ แก้ไข้ ม้ามโต และริดสีดวงทวาร ก็รวมทั้งยังถอนพิษได้ดีอีกด้วย ทั้งพิษแมลงสัตว์ กัด ต่อย แก้พิษคัน ส่วนผู้หญิงดื่มน้ำที่ต้มจากใบ ช่วยแก้ให้ระดูมาเป็นปกติได้
          
                                        
                                   ผัดบวบกับไข่ เมนูใส่ใจสุขภาพน่าทานมั๊ยละ



          การเลือกซื้อบวบ

          เทคนิค การเลือกซื้อบวบมาทำอาหารให้อร่อยนั้น ต้องดูที่ขั้ว ขั้วของบวบเหลี่ยมที่ดีต้องสดเขียว สวยเย็นตา ผลยาวตรง ไม่หักงอ ผลสีเขียวเข้ม เหลี่ยมเป็นสันคม

      




วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

กะเพรา


          “ข้าวผัดกะเพรา (หมู ไก่ เนื้อ) + ไข่ดาว” คือเมนูอาหารของวันนี้ของคุณหรือเปล่า แต่ถ้าไม่ใช่ก็อาจเป็นของเมื่อวานหรือวันพรุ่งนี้ก็ได้ เพราะเมนูนี้ถือได้ว่าเป็นรายการอาหารยอดนิยมอีกหนึ่งประเภทที่ทุกคนล้วนเคย รับประทาน หรือบางครั้งถึงขั้นรับประทานกันทุกวันเลยก็มี แล้วจากเมนูอาหารที่ยกมาคงรู้กันนะว่าจะกล่าวถึงอะไร ถ้าไม่ใช่ “กะเพรา”






 พืชผักอีกชนิดที่เรารู้จักกันมานาน และรู้กันดีว่าสามารถใช้เป็นอาหารและยาได้เช่นเดียวกับผักพื้นบ้านอีกหลาย ชนิด แต่เนื่องจากกะเพรามีกลิ่นฉุนและรสเผ็ดร้อน เราจึงไม่นิยมรับประทานกะเพราโดยตรงเหมือนผักชนิดอื่น ๆ แต่จะนำมาปรุงรสชาติและกลิ่นในการประกอบอาหารต่าง ๆ อย่างผัดกะเพรา หรือใช้ดับกลิ่นคาว เช่น ผัดหมู พล่าปลาดุก แกงเลียงใบกะเพรา โดยเมนูนี้เหมาะกับคุณแม่รับประทานหลังคลอดใหม่ ๆ เพื่อช่วยขับลม บำรุงธาตุให้เป็นปกติ เป็นยาขับน้ำนม หรือในแกงป่า แกงเขียวหวาน แกงคั่ว ในยำต่าง ๆ แม้แต่การทอดใบกะเพราให้กรอบแล้วนำมาโรยหน้าอาหารได้สารพัดเมนู 




       กะเพราจัดเป็นพืชสมุนไพรเต็มตัวได้อีกชนิดหนึ่งเพราะมีสรรพคุณรักษา โรค ได้แก่ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่น จุกเสียดท้อง แก้คลื่นไส้อาเจียน ฯลฯ โดยใช้กะเพรา 1 กำมือ ต้มเอาน้ำดื่มหรือจะตากแห้งเป็นผงก็ได้ แต่เด็ก ๆ ที่มีอาการโยเยเพราะท้องอืด ท้องเฟ้อ ให้ใช้ใบกะเพราสดสัก 9-10 ใบ ขยี้พอมีน้ำออกให้เด็กสูดดมและทาบริเวณท้อง ส่วนใครที่เป็นโรคผิวหนัง เช่น กลาก เกลื้อน ให้ใช้ใบกะเพราขยี้พอมีน้ำหรือตำกับเกลือเล็กน้อย ทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้ง รวมถึงการรับประทาน ใบกะเพราสดทุกวันจะช่วยแก้โรคกระเพาะได้ นอกจากนี้ ในส่วนของเมล็ดเมื่อนำไปแช่น้ำจนพองตัวเป็นเมือกขาว ใช้พอก ในบริเวณตา เมื่อตามีผงหรือฝุ่นละอองเข้าไป ช่วยทำให้สิ่งสกปรกออกง่ายโดยไม่ทำให้ตาเราช้ำอีกด้วย
       “กะเพรา” จึงเป็นผักสวนครัวที่อเนกประสงค์จริง ๆ นะค่ะ แถมปลูกง่ายและไม่ต้องดูแลมาก จะปลูกไว้ริมรั้ว ในกระถางริมหน้าต่าง หรือถ้ามีพื้นที่น้อยจะปลูกบนดาดฟ้าก็ยังได้








       เกร็ดความรู้เก็บใบกะเพรา...        ใบกะเพราที่ใช้ไม่หมดแต่ยังเหลืออีกเยอะหรืออาจปลูกเองแต่รับประทาน ไม่ทัน ให้นำมาเด็ดใบ ล้างน้ำให้สะอาด ใส่ตะแกรงหรือกระชอนให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นเตรียมกระเทียมและเกลือตามเหมาะสม ตั้งกระทะ พอร้อนใส่น้ำมันลงไป แล้วใส่ใบกะเพรา กระเทียม เกลือ ลงไปผัดแค่พอยุบ (อย่าผัดนานเพราะจะเละ) แล้วปล่อยไว้จนเย็น เอาแต่เนื้อมาใส่ถุงซิปล็อก เขี่ยให้บาง ๆ แล้วแช่ในช่องแช่แข็งในตู้เย็น ต่อไปเมื่อจะทำเมนูเกี่ยวกับกะเพรา ก็หักเอาขนาดตามต้องการผัดกับน้ำมัน ใส่พริกขี้หนูกับพริกไทยลงไปก็ใช้ได้แล้ว